Adobe Firefly ฟีเจอร์ใหม่

อัพเดตฟีเจอร์ใหม่ใน Adobe Firefly พิเศษซื้อ Creative Cloud All Apps ลด 36% ใช้ Adobe Firefly ฟรี!!

Adobe Firefly สร้างวิดีโอจากรูปและข้อความได้แล้ว!!

ฟีเจอร์ใหม่ Adobe Firefly แปลงไอเดียให้กลายเป็นวิดีโอคลิปอันน่าทึ่งเพื่อนำเสนอไอเดีย B-roll เอฟเฟกต์ภาพ รวมไปถึงแปลงข้อความหรือรูปภาพเป็นวิดิโอได้แล้ว ด้วยเครื่องสร้างวิดิโอ AI

Adobe Firefly เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์งานได้ครบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง หรือวิดีโอ ในที่เดียว โดยสามารถทำงานได้ตั้งแต่เริ่มต้นไอเดียไปจนถึงการผลิตจริง มันทำงานร่วมกับแอพ Adobe ที่คุณใช้ประจำได้อย่างง่ายดาย และช่วยให้คุณควบคุมทุกรายละเอียดของงานได้ดีขึ้น ทำให้สามารถทำงานเสร็จเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การสร้างวิดีโอแบบใหม่ที่ใช้ข้อความ และภาพเป็นพื้นฐาน สามารถเริ่มจากการเลือกภาพนิ่งสองภาพและใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างวิดีโอ หรือจะทำให้ไอเดียของคุณมีการเคลื่อนไหวด้วยข้อความแนะนำก็ได้ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างภาพ B-roll (ภาพเสริม) เพิ่มเอฟเฟกต์ภาพ และปรับแต่งมุมกล้อง การเคลื่อนไหว และสไตล์ของวิดีโอได้ตามต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สร้างสรรค์

พิเศษ! Adobe Firefly ใช้ ฟรี เมื่อซื้อ Creative Cloud All Apps ลด 36% โปรโมชั่น ถึงแค่ 28 ก.พ. นี้เท่านั้น

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://www.adobe.com/products/firefly/features/ai-video-generator.html

Softwaretae-3

ซื้อซอฟต์แวร์แท้ที่ไหนดี?

การเลือกซื้อซอฟต์แวร์แท้เป็นเรื่องสำคัญ ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย MTECH Thailand คือตัวเลือกที่ดีที่สุด ด้วยการรับรองจากผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ชั้นนำและบริการหลังการขายครบวงจร

1. ซื้อจากแหล่งที่ได้รับการรับรอง

การเลือกซื้อซอฟต์แวร์จากตัวแทนที่ได้รับการรับรองเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับซอฟต์แวร์แท้ ไม่มีความเสี่ยงจากมัลแวร์ และสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง

ทำไมต้องซื้อกับ MTECH?

  • ได้รับการรับรองจากผู้พัฒนาโดยตรง เป็น Gold Partner ของ Autodesk, Adobe และตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Chaos, SketchUp และ Foxit
  • มั่นใจเรื่องลิขสิทธิ์แท้ 100% ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
  • ออกใบเสนอราคาและใบกำกับภาษีได้ รองรับการจัดซื้อขององค์กร

2. บริการหลังการขายที่เหนือกว่า

MTECH ไม่ใช่แค่จำหน่ายซอฟต์แวร์ แต่ยังให้บริการครบวงจร ตั้งแต่การติดตั้งไปจนถึงการใช้งานจริง

บริการหลังการขายที่คุณจะได้รับ

  • Remote ติดตั้งและแก้ไขปัญหา โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ
  • อัปเดตซอฟต์แวร์ และแจ้งเตือนแพตช์ความปลอดภัย
  • มีศูนย์อบรมที่ได้รับการรับรองจาก Autodesk (ATC) พร้อมใบรับรองการอบรม
  • ให้คำแนะนำการใช้งานและ Demo เบื้องต้น เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

3. รองรับระบบบัญชีและภาษีขององค์กร

MTECH ช่วยให้การจัดซื้อซอฟต์แวร์ขององค์กรเป็นเรื่องง่าย ด้วยระบบที่รองรับการออกใบเสนอราคา ใบกำกับภาษี และสามารถปรับแต่งซอฟต์แวร์ให้ตรงกับระบบบัญชีและภาษีของบริษัทได้

จุดเด่นของ MTECH สำหรับธุรกิจ

  • ออกเอกสารครบถ้วน รองรับการเบิกจ่ายขององค์กร
  • ให้คำปรึกษาการเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมกับระบบของบริษัท
  • เชื่อมต่อกับระบบบัญชีและภาษีขององค์กรได้อย่างราบรื่น

4. ให้คำแนะนำก่อนซื้อ เพื่อให้ได้ซอฟต์แวร์ที่ตรงความต้องการที่สุด

MTECH มีทีมเซลส์มืออาชีพที่พร้อมให้คำแนะนำและวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เพื่อช่วยเลือกซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมที่สุด

ทำไมควรปรึกษากับ MTECH ก่อนซื้อ?

  • ช่วยเลือกแพ็กเกจซอฟต์แวร์ที่ตรงกับการใช้งาน
  • เปรียบเทียบตัวเลือกให้เหมาะกับงบประมาณและความต้องการ
  • ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ และข้อกำหนดการใช้งาน
AI กำลังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมก่อสร้างโดยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุนและเวลาโครงการ รวมถึงพัฒนาทักษะของกำลังคนผ่านการใช้เครื่องมือ AI เช่น กล้องและเซ็นเซอร์ นอกจากนี้ AI ยังช่วยในการคาดการณ์แนวโน้มและปรับปรุงการตัดสินใจในงานก่อสร้าง รวมถึงมีผลกระทบต่อการปรับปรุงคุณภาพการก่อสร้างและความยั่งยืนในระยะยาว โดยคาดว่าตลาด AI ในงานก่อสร้างจะเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต

ทิศทางของ AI ในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง

อนาคตของการก่อสร้าง: เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI นำทางสู่ความสำเร็จ

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การใช้งาน AI กับการก่อสร้างไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการจัดการโครงการ แต่ยังเปลี่ยนแปลงวิธีการสร้างแบบจำลองข้อมูลอาคาร (BIM) และลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรม การติดตามความก้าวหน้าเหล่านี้จึงมีความสำคัญต่ออนาคตของอุตสาหกรรมก่อสร้าง

AI กำลังกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงวิธีการแบบดั้งเดิมไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของกำลังคน ข้อมูลที่รวบรวมเพิ่มขึ้นทำให้ AI สามารถคาดการณ์แนวโน้มและค้นพบโอกาสใหม่ๆ สำหรับนวัตกรรมและประสิทธิภาพ สร้างรากฐานให้กับอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยั่งยืน

ผลของปัญญาประดิษฐ์ต่อประสิทธิภาพของกำลังคน

  • ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมก่อสร้างโดยเพิ่มประสิทธิภาพของกำลังคน ผ่านการพัฒนาทักษะ และการทำงานอัตโนมัติ ช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงาน และกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการดำเนินงานในอนาคต
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในไซต์งานก่อสร้าง โดยช่วยในการกำหนดตารางงาน จัดสรรแรงงาน และวัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนและเวลาโครงการ โดยใช้เครื่องมือที่มี AI เป็นตัวช่วย เช่น กล้องและเซ็นเซอร์
  • ช่วยพัฒนาทักษะของคนงานด้วยแพลตฟอร์มการเรียนรู้ส่วนบุคคล โดยใช้ข้อมูลเพื่อสร้างโปรแกรมฝึกอบรมที่ตอบโจทย์แต่ละคน

    การคาดการณ์อนาคตด้วย AI

    • Predictive Analysis ในงานก่อสร้างนั้น ใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์ขั้นสูงเพื่อคาดการณ์ผลลัพธ์ และแนวโน้มในอนาคต ช่วยปรับปรุงการตัดสินใจ ลดต้นทุน ลดความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร ทำให้จัดทำงบประมาณและกำหนดเวลาโครงการได้แม่นยำ
    • ตลาด AI ในงานก่อสร้างกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว มูลค่าตลาดเดิมในปี 2023 คือ 3.21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดการณ์ว่าในปี 2029 จะเพิ่มเป็น 11.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI

    เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้งานใหม่ๆ เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เทคโนโลยีในอนาคต นอกจากนี้ เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคารผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง

    การผสานเทคโนโลยี AI กับการก่อสร้างจะช่วยลดต้นทุน เร่งระยะเวลาโครงการ และเพิ่มคุณภาพการก่อสร้าง ผลกระทบเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างผลกำไรและประสิทธิภาพทันที แต่ยังทำให้อุตสาหกรรมมีความยืดหยุ่น และขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม รวมไปถึงพัฒนาทักษะของกำลังคน ทำให้การก่อสร้างตอบสนองต่อความยั่งยืนและการจัดการโครงการที่ดีขึ้น พร้อมมองไปข้างหน้าสู่อนาคต

    สำหรับอนาคตของการก่อสร้างที่ขับเคลื่อนด้วย AI MTECH คือหนึ่งในผู้นำในการนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการก่อสร้าง ด้วยโซลูชัน AI ใน Software ที่ทันสมัยของเรา พร้อมจะช่วยพัฒนาโครงการของคุณให้มีประสิทธิภาพและความยั่งยืน

    ที่มา: Ginger Nixon

    https://www.openspace.ai/blog/the-future-of-construction-ai-driven-technologies-leading-the-way/

    เรียบเรียงโดย MTECH Thailand

      reacap revit c

      Recap แก้เคส Revit เปิดไฟล์งานจากบน Docs แล้วเด้งหลุด

      Recap: วิธีแก้ไขปัญหา Revit เปิดไฟล์งานจาก Autodesk Docs แล้วเด้งหลุด ลบลงใหม่ก็ไม่หาย

      กรณีลูกค้าประสบปัญหาใช้งาน Revit แล้วเกิดไฟตก ส่งผลให้โปรแกรมเด้งหลุดเมื่อเปิดไฟล์งานจาก cloud (Autodesk Docs) แต่ไฟล์ที่อยู่ในเครื่องสามารถเปิดได้ปกติ อาการนี้อาจเกิดจาก bad data ในไฟล์ user.config

      วิธีแก้ไขปัญหา

      1. Recreate user.config

      1. ไปที่ path:
        C:\Users\%USERNAME%\AppData\Local  
      1. เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ “Autodesk,_Inc” เป็น “Autodesk,_Inc_OLD”

      หมายเหตุ: การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกับทุกเวอร์ชันของ Revit ที่ติดตั้งไว้ หากเวอร์ชันอื่นมีปัญหาหลังจากนี้ ให้คัดลอกเนื้อหาในโฟลเดอร์เก่า (OLD) ไปใส่ในโฟลเดอร์ใหม่ โดยไม่ต้องทับไฟล์ที่มีอยู่

      1. เปิดโปรแกรม Revit
      2. ลองเปิดไฟล์ Cloud model

      2. Clear CollaborationCache

      สำหรับ Revit 2024 และเวอร์ชันที่ใหม่กว่า

      1. เปิด Revit และไปที่ Options
      2. เปลี่ยนตำแหน่ง Cloud model cache (ตัวอย่าง:
         C:\Users\%USERNAME%\AppData\Local\Autodesk\Revit_New  
      1. ปิดและเปิด Revit ใหม่อีกครั้งเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล

      หากยังไม่สามารถแก้ไขได้ ให้ทำการ Clear PacCache ตามขั้นตอนด้านล่าง:

      Clear PacCache (Personal Accelerator Cache):

      1. สร้างโฟลเดอร์ชื่อ Cache ไว้ที่ Desktop
      2. ภายในโฟลเดอร์ Cache ให้สร้าง subfolder ชื่อ Pac
      3. ย้ายทุกอย่างใน path ด้านล่าง (ยกเว้นโฟลเดอร์ Logs และไฟล์ JSON) ไปที่ subfolder ที่สร้างไว้:
        C:\Users\%USERNAME%\AppData\Local\Autodesk\Revit\PacCache  

      สำหรับ Revit 2023 และเวอร์ชันก่อนหน้า

      1. สร้างโฟลเดอร์ชื่อ Cache ไว้ที่ Desktop
      2. ภายในโฟลเดอร์ Cache ให้สร้าง subfolder ชื่อ Collab
      3. ย้ายเนื้อหาทั้งหมดใน path ด้านล่างไปที่ subfolder:
        %localappdata%\Autodesk\Revit\Autodesk Revit ####\CollaborationCache

      หลังจากทำตามขั้นตอนดังกล่าว หากปัญหายังไม่หาย อาจต้องตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ network configuration หรือ permissions ในระบบ.

      SKETCH UP 2024-1

      Recap Features ที่นิยมใช้ใน SketchUp V.2024

      ในปี 2024 SketchUp ได้มีการปรับเวอร์ชันจาก 2023 เป็น 2024 ซึ่งมีฟีเจอร์ที่จะช่วยยกระดับการออกแบบให้เร็วขึ้นและง่ายยิ่งขึ้น! มาดูกันว่าเวอร์ชันนี้มีอะไรใหม่บ้าง

      AI ใน SketchUp

          เทคโนโลยี AI ที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถทำงานร่วมกับ SketchUp ได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

          • วาดรูปร่างที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น
          • ค้นหาโมเดลที่สมบูรณ์แบบจากโมเดลนับล้านรายการใน 3D Warehouse ด้วยฟังก์ชันค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI
          • SketchUp Diffusion ใช้ AI ในการสร้างภาพที่น่าสนใจตามที่ต้องการ พร้อมค้นหาโมเดลจากภาพถ่ายได้
          • แปลงข้อมูลที่สแกนเป็นรูปทรงเรขาคณิต 3D โดยใช้ฟังก์ชัน Scan to Design
          • Trimble Connect

          เพิ่มความสะดวกในการทำงานร่วมกัน

          • ทำงานใน Cyber Space เดียวกัน แชร์ข้อมูลและเข้าถึงโปรเจกต์ได้ทุกที่ ทุกเวลา
          • ออกแบบได้บนแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งเดสก์ท็อป เว็บ และ iPad
          • ติดตามการเปลี่ยนแปลงงานและเก็บประวัติเวอร์ชันไฟล์อย่างราบรื่นหลังจากที่บันทึกแล้ว
          • ส่งงานให้ลูกค้าผ่านอีเมลได้ทันที
          • Scan Essentials

          การสแกนเพื่อสำรวจและวัดขนาดได้ง่าย

          • สแกนหน้างานเพื่อสำรวจ วัดขนาด และซ่อมแซม โดยไม่ต้องกลับไปวัดซ้ำ
          • นำเข้า Point Cloud จาก Laser Scan, โดรน หรือ iPhone มาใช้งานใน SketchUp Studio ได้ง่ายๆ
          • Scan to Design
          • สแกนพื้นที่หน้างานแล้วใช้ข้อมูลที่ได้มาสร้างโมเดล 3D ที่สมจริงใน SketchUp ได้ทันที
          • PreDesign

          เพิ่มความแม่นยำในการออกแบบ

          • วิเคราะห์พื้นที่และทำ site survey ได้ง่ายๆ
          • เพียงแค่ระบุตำแหน่ง ก็จะได้รับข้อมูลทิศทางแดดและลมทันที ช่วยให้การออกแบบสะดวกและแม่นยำยิ่งขึ้น

          สำหรับเวอร์ชัน 2025 จะมีฟังก์ชันอะไรใหม่ ๆ ที่น่าสนใจนั้น รอติดตามข่าวสารจาก SketchUp กันนะคะ!

          เรียบเรียงบทความโดย MTECH

          Graphic Trend

          Graphic Trend 2025 ที่สายออกแบบจะต้องเซฟไว้

          เตรียมตัวให้พร้อมกับเทรนด์กราฟิกที่น่าจับตามองในปี 2025

          MTECH ได้รวบรวมเทรนด์การออกแบบที่สนใจสำหรับสายออกแบบ สายคอนเท้นต์ต่างๆ

          1. การออกแบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI

          AI จะช่วยสร้างงานออกแบบที่สมจริงและมีความคิดสร้างสรรค์สูง ช่วยผสมผสานประสิทธิภาพและความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่

          2. ศิลปะนามธรรมเชิงเรขาคณิต

          การใช้รูปทรงเรขาคณิตเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความเรียบง่ายและความซับซ้อน สร้างการออกแบบที่ทันสมัยและมีเอกลักษณ์

          3. การออกแบบ 3 มิติที่เสมือนจริง

          การออกแบบ 3D จะมีความสมจริงสูง ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนสามารถสัมผัสได้

          4. Texture Grains

          เทคนิคเพิ่มมิติให้กับภาพที่แบนเรียบ โดยทำให้ภาพดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

          5. เบลอและการบิดเบือน

          การผสมสีและภาพที่เบลอเพื่อสร้างความน่าสนใจและไม่ซ้ำใคร

          6. Bold Minimalism

          การใช้พื้นที่ว่างและองค์ประกอบเด่นๆ เพื่อให้การออกแบบทันสมัยและเรียบง่าย

          7. สื่อผสมและภาพตัดปะ

          การผสมผสานสื่อและการใช้ภาพตัดปะเพื่อเพิ่มความโดดเด่นและเอกลักษณ์

          8. การใช้สีสดใสและการตัดกัน

          การใช้สีสดใสและคอนทราสต์สูงเพื่อสร้างความโดดเด่นและพลัง

          9. Custom Shape Cropped Photos

          การตัดภาพในรูปทรงที่ปรับแต่งเพื่อเพิ่มความน่าสนใจและเอกลักษณ์

          เทรนด์กราฟิกในปี 2025 จะเน้นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ โดยการใช้ AI ในการออกแบบ การสร้างประสบการณ์ 3D ที่สมจริง รวมไปถึง การใช้สีที่โดดเด่น และการตัดภาพที่แปลกใหม่ จะช่วยให้งานออกแบบมีความหลากหลายและทันสมัยมากขึ้น ความสร้างสรรค์จะไม่ถูกจำกัด และนักออกแบบจะมีเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อสร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

          ที่มา:

          1. https://piktochart.com/blog/graphic-design-trends-2025/

          2. https://muz.li/blog/10-graphic-design-trends-2025/

          เทรนด์การก่อสร้าง2025

          เทรนด์การก่อสร้างที่น่าจับตามองในปี 2025

          เทรนด์การก่อสร้างปี 2025

          อุตสาหกรรมการก่อสร้างกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากเทคโนโลยีล้ำสมัย และแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนกลายมาเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่ง MTECH ได้รวบรวมเทรนด์การก่อสร้างที่น่าจับตามองในปี 2025 มาไว้ในบทความนี้

          1. Modular Construction – การก่อสร้างแบบโมดูลาร์กำลังได้รับความนิยมเนื่องจากมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ควบคุมคุณภาพการก่อสร้างได้ดี มีข้อผิดพลาดในการก่อสร้างน้อยกว่าปกติ แถมยังช่วยลดต้นทุน และระยะเวลาในการก่อสร้างอีกด้วย

          2. การพิมพ์ 3D ในการก่อสร้าง – เทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถสร้างส่วนประกอบของอาคารทีละชั้น ปี2025นี้ การพิมพ์ 3D จะมีบทบาทสำคัญในการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ราคาประหยัด เนื่องจากมีความสามารถในการลดขยะ และต้นทุนแรงงาน

          3. เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) – ปี2025 AI จะมีอยู่ทุกที่ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์ ทำนายความล่าช้าในการดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากร และประเมินความเสี่ยงในการก่อสร้าง

          4. ความก้าวหน้าของการสร้างแบบจำลองข้อมูลอาคาร (BIM) – BIM ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นเครื่องมือสำคัญในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ปี 2025 คาดว่า BIM จะได้รับการเชื่อมโยงกับ AI และระบบ IoT

          5. การก่อสร้างแบบยั่งยืน – ความยั่งยืนไม่ใช่แค่เทรนด์อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นรากฐานของการก่อสร้างในยุคปัจจุบัน เน้นไปที่การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้พลังงานทดแทน วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมการออกแบบ เช่น หลังคาสีเขียว และระบบที่ประหยัดพลังงาน เป็นต้น

          6. Smart building – ปฏิวัติการก่อสร้างที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี โดยติดตั้งเซ็นเซอร์ IoT และระบบอัตโนมัติ ซึ่งทำให้อาคารสามารถตรวจสอบ และปรับปรุงการใช้พลังงาน ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมได้ ปี2025 อาคารอัจฉริยะจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอสังหาริมทรัพย์ทั้งที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์

          7. AR และ VR – เทคโนโลยีนี้กำลังจะปฏิวัติการมองเห็นโครงการการก่อสร้าง โดย AR จะแสดงการออกแบบดิจิทัลทับกับสภาพแวดล้อมจริง ช่วยให้ทีมสามารถระบุปัญหาการออกแบบที่อาจเกิดขึ้นในเวลาจริง ขณะที่ VR จะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปในแบบจำลองดิจิทัลของสถานที่ก่อสร้างหรืออาคารที่สร้างเสร็จแล้ว

          8. วัสดุที่ยั่งยืน – แนวคิดนี้กำลังได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง โดยมุ่งเน้นการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่และการรีไซเคิลเพื่อลดขยะ

          ปี 2025 การก่อสร้างจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและยั่งยืน ทั้งการใช้ AI, BIM, AR, VR รวมถึงการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมผลักดันแนวทางการพัฒนาอสังหาฯ อย่างยั่งยืนในอนาคต

          ที่มา: https://www.azobuild.com/article.aspx?ArticleID=8701

          เรียบเรียงโดย: MTECH

          AutoCAD

          ปัญหาในการใช้งาน AutoCAD 2019

          สำหรับท่านใดที่ยังใช้ AutoCAD 2019 อยู่ แล้วพบปัญหา “All of the possible directories for storing temporary files either do not exist or are readonly. Please correct this situation before running AutoCAD again.” ซึ่งสาเหตุอาจจะเกิดจากข้อผิดพลาดบางอย่างหลังจากกำหนดค่า Windows AD เนื่องจากโฟลเดอร์ผู้ใช้ผิดพลาด

          วิธีการแก้ไขสามารถลองจากวิธีดังต่อไปนี้
          1. Clean uninstall
          2. Update windows
          3. Reinstall
          4. Try to fix profile and path error

          หรือเข้าไปอ่านวิธีแก้ไขเพิ่มเติมได้ตามลิงก์นี้: https://www.autodesk.com/support/technical/article/caas/sfdcarticles/sfdcarticles/When-you-launch-the-application-a-temporary-files-error-displays.html?fbclid=IwY2xjawHMiUpleHRuA2FlbQIxMAABHUNw52o2hUUzqCwZsJDKNCUdQOB4upKewe-jVn9PJlzLBFu1sUNqFWCaoQ_aem_CcQWbfvPVn58CjaLnUpeZQ

          สั่งซื้อ Adobe ผ่านหน้าเว็บ

          ตอบข้อสงสัย!! เรื่องการออกใบกำกับภาษีสำหรับบริษัทผ่านหน้าเว็บ Adobe

          หากลูกค้าต้องการซื้อโปรแกรม Adobe สามารถซื้อผ่านหน้าเว็บได้เลย แต่จะไม่ใช่ license ในรูปแบบธุรกิจ (for team) แต่เป็นรูปแบบบุคคล (individual) จึงทำให้ไม่สามารถออกใบกำกับภาษีในนามบริษัทได้

          หากต้องการในรูปแบบธุรกิจ (for team) ต้องติดต่อกับตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย จึงจะออกใบกำกับภาษีในนามบริษัทได้โดยผ่านตัวแทนจำหน่ายค่ะ

          การร่างภาพใน SketchUp

          การร่างภาพใน SketchUp

          การร่างภาพใน SketchUp เป็นวิธีการออกแบบที่ใช้กันทั่วไปใน SketchUp เพราะทำให้งานออกแบบ 3 มิติของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายและรวดเร็ว (นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบในรูปแบบ 2 มิติ แล้วนำภาพ 2 มิตินั้นไปใช้ในงาน 3 มิติได้อีกด้วย) ซึ่งขั้นตอนการร่างภาพมีดังนี้

          1. นำเข้าไฟล์ภาพจาก File > import จากนั้นไปยังตำแหน่งที่เก็บไฟล์ภาพไว้ (หากไม่เห็นไฟล์ที่ต้องการ ให้ตรวจสอบว่าได้เลือกประเภทไฟล์ที่ถูกต้องแล้ว เช่น JPG หรือ PNG)

          เคล็ดลับ: สามารถลากไฟล์ที่ต้องการและวางลงยังพื้นที่วาดได้เลยเพื่อความรวดเร็ว

          2. ตรวจสอบอีกครั้งว่าได้เลือกประเภทไฟล์เป็น image ในส่วนของ Use As Image

          3. ปรับขนาดของภาพที่นำเข้า จากการคลิกในตำแหน่งที่ต้องการ

          4. เลือกเครื่องมือ drawing tool เพื่อเริ่มการร่างภาพ ซึ่งเครื่องมือ line เป็นเครื่องมือที่นิยมและใช้งานง่ายที่สุด

          หากต้องการปรับมุมมองภาพ สามารถปรับได้จากตัวเลือก Camera > Standard Views > Top เพื่อดูภาพจากมุมมองด้านบน