เทรนด์การก่อสร้าง2025

เทรนด์การก่อสร้างที่น่าจับตามองในปี 2025

เทรนด์การก่อสร้างปี 2025

อุตสาหกรรมการก่อสร้างกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากเทคโนโลยีล้ำสมัย และแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนกลายมาเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่ง MTECH ได้รวบรวมเทรนด์การก่อสร้างที่น่าจับตามองในปี 2025 มาไว้ในบทความนี้

1. Modular Construction – การก่อสร้างแบบโมดูลาร์กำลังได้รับความนิยมเนื่องจากมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ควบคุมคุณภาพการก่อสร้างได้ดี มีข้อผิดพลาดในการก่อสร้างน้อยกว่าปกติ แถมยังช่วยลดต้นทุน และระยะเวลาในการก่อสร้างอีกด้วย

2. การพิมพ์ 3D ในการก่อสร้าง – เทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถสร้างส่วนประกอบของอาคารทีละชั้น ปี2025นี้ การพิมพ์ 3D จะมีบทบาทสำคัญในการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ราคาประหยัด เนื่องจากมีความสามารถในการลดขยะ และต้นทุนแรงงาน

3. เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) – ปี2025 AI จะมีอยู่ทุกที่ เทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์ ทำนายความล่าช้าในการดำเนินงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากร และประเมินความเสี่ยงในการก่อสร้าง

4. ความก้าวหน้าของการสร้างแบบจำลองข้อมูลอาคาร (BIM) – BIM ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นเครื่องมือสำคัญในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ปี 2025 คาดว่า BIM จะได้รับการเชื่อมโยงกับ AI และระบบ IoT

5. การก่อสร้างแบบยั่งยืน – ความยั่งยืนไม่ใช่แค่เทรนด์อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นรากฐานของการก่อสร้างในยุคปัจจุบัน เน้นไปที่การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้พลังงานทดแทน วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมการออกแบบ เช่น หลังคาสีเขียว และระบบที่ประหยัดพลังงาน เป็นต้น

6. Smart building – ปฏิวัติการก่อสร้างที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี โดยติดตั้งเซ็นเซอร์ IoT และระบบอัตโนมัติ ซึ่งทำให้อาคารสามารถตรวจสอบ และปรับปรุงการใช้พลังงาน ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมได้ ปี2025 อาคารอัจฉริยะจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในอสังหาริมทรัพย์ทั้งที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์

7. AR และ VR – เทคโนโลยีนี้กำลังจะปฏิวัติการมองเห็นโครงการการก่อสร้าง โดย AR จะแสดงการออกแบบดิจิทัลทับกับสภาพแวดล้อมจริง ช่วยให้ทีมสามารถระบุปัญหาการออกแบบที่อาจเกิดขึ้นในเวลาจริง ขณะที่ VR จะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าไปในแบบจำลองดิจิทัลของสถานที่ก่อสร้างหรืออาคารที่สร้างเสร็จแล้ว

8. วัสดุที่ยั่งยืน – แนวคิดนี้กำลังได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง โดยมุ่งเน้นการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่และการรีไซเคิลเพื่อลดขยะ

ปี 2025 การก่อสร้างจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและยั่งยืน ทั้งการใช้ AI, BIM, AR, VR รวมถึงการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมผลักดันแนวทางการพัฒนาอสังหาฯ อย่างยั่งยืนในอนาคต

ที่มา: https://www.azobuild.com/article.aspx?ArticleID=8701

เรียบเรียงโดย: MTECH

2024 trends

2024 Trends in the built environment

2024 Trends in the built environment:  What to anticipate across AI, sustainability, and labor.

แนวโน้มในสภาพแวดล้อมการก่อสร้าง: คาดการณ์ในเรื่องของ AI, ความยั่งยืน และแรงงาน ในปี 2024

เมื่อปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เครื่องมือ AI ใหม่ ๆ จะช่วยส่งเสริมผลลัพธ์ของการทำงานที่ดี และยั่งยืนมากขึ้นสำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมสถาปัตย์ วิศวกรรม และการก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันการใช้ AI ในการวางแผนและการออกแบบโครงการสร้างสรรค์จะเป็นที่นิยมมากขึ้น เช่น การปรับใช้เทคโนโลยี AI เพื่อการประหยัดพลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการอาคาร และช่วยประเมินผลลัพธ์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

.

อุตสาหกรรมแรงงานเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในวิธีการทำงาน เริ่มพัฒนาทักษะใหม่ ๆ และการฝึกอบรมต่าง ๆ เพื่อให้แรงงานสามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ได้ รวมไปถึงปัจจุบันเกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมสถาปัตย์ วิศวกรรม และการก่อสร้าง ด้วยเหตุนี้การพัฒนาทักษะให้แรงงานที่มีอยู่นั้นไม่เพียงพอในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยอุตสาหกรรมจำเป็นต้องลงทุนในการฝึกอบรมที่มากขึ้น ทำให้สามารถเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

.

ในสภาวะที่มีการเพิ่มตัวเลือกทางเทคโนโลยีที่ยั่งยืนมากขึ้นในอุตสาหกรรมสถาปัตย์ วิศวกรรม และการก่อสร้าง เช่น การใช้วัสดุที่มีการรีไซเคิลมากขึ้น การใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อุตสาหกรรมการก่อสร้างมีแนวโน้มที่จะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืนมากขึ้น มุ่งเน้นในการใช้วัสดุ และกระบวนการที่มีความยั่งยืนเพื่อความปลอดภัยของสิ่งแวดล้อม เริ่มมีการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรม ซึ่งเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์อย่างมาก เช่น เทคโนโลยีดิจิตอลทวิน (Digital Twin) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเสมือนจริง เริ่มตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการดำเนินงาน หรือ การนำเทคโนโลยีอากาศสะอาดและพลังงานหมุนเวียนเข้าสู่การบริหารจัดการอาคาร เป็นต้น

.

กล่าวโดยสรุป การก่อสร้างในปี 2024 นั้น เชื่อว่าจะเป็นปีที่สำคัญในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในอุตสาหกรรม และการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสำเร็จในอนาคตให้กับองค์กรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมนี้ โดย Autodesk เป็นหนึ่งในผู้นำในการสนับสนุน และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง

Autodesk Desktop Connector

Autodesk Desktop Connector

Desktop Connector เป็นแอปพลิเคชันที่ติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของคุณซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างการทำงานบนคอมพิวเตอร์กับข้อมูลบน Autodesk Cloud โดยจะสร้าง Virtual drive ขึ้นมาอ้างอิงกับการเก็บข้อมูลบน Autodesk Cloud

รองรับการทำงานบน Autodesk Cloud platform ดังนี้
– Cloud Data Source – Autodesk BIM 360 & Autodesk Docs
 Connector –> Autodesk Docs

– Cloud Data Source – Autodesk Drive
Connector –> Autodesk Drive

– Cloud Data Source – Autodesk Fusion 360
  Connector –> Fusion 360
.
เมื่อติดตั้ง Desktop Connector แล้ว แอปพลิเคชันนี้จะสร้างไดรฟ์ (Virtual drive) ที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นสะพานเชื่อมระหว่างระบบไฟล์ในเครื่องและข้อมูลในระบบคลาวด์ของ Autodesk หากในกรณีที่ผู้ใช้งานไม่สามารถทำการเชื่อมต่อ internet เพื่อเข้าสู่ cloud แต่ก็ยังสามารถทำงานบนเครื่องได้ ซึ่งจะถูกซิงค์กับ cloud โดยอัตโนมัติ
.
Version ล่าสุด
> October 2, 2023 (v.16.5.0.2083) Current Release
ได้เพิ่มการใช้งานในส่วนของการ Reset ข้อมูล และ Retry สำหรับไฟล์ที่ Sync ไม่สำเร็จ เป็นต้น
.
สำหรับผู้ใช้งานที่มี Autodesk Cloud อยู่แล้วสามารถ download ได้จาก link นี้
https://help.autodesk.com/view/CONNECT/ENU/… 45E3-84F2-A12AAA5BB267